แม้ว่านาทีนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะมีผลงานที่มีแต่ถอยหลังลงคลอง แถมยังอาจพลาดการติดท็อปโฟร์ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษซีซั่นนี้ แต่ในทางกลับกันนั้น แมนฯยูฯ กลายเป็นทีมที่ใช้เงินสุทธิหลังหักกลมลบหนี้แล้วมากที่สุด โดย แมนฯยูฯตำน้ำพริกละลายแม่น้ำกับการจับจ่ายแข้งเสริมทัพแบบไม่ปังไปเป็นจำนวนมหาศาล 897 ล้านปปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกที่ราว 39,468 ล้านบาทเลยทีเดียว) ซึ่งนับตั้งแต่ฤดูกาล 2012 – 2013 เป็นต้นมา
ผลงานไม่ดีไม่พอ แมนฯยูฯ ยังเป็นเจ้าพ่อขาช้อป

แมนฯยูฯกลายเป็นทีมที่ใช้จ่ายไปกับการเสริมทัพมากที่สุดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นแชมป์ขาช็อปมากสุดใน 5 ลีกดังของยุโรปไล่ไปตั้งตั้งพรีเมียร์ลีกอังกฤษ, ลา ลีกาสเปน, กัลโช่ เซ เรียอาอิตาลี, บุนเดสลีกาเยอรมัน และลีกเอิงฝรั่งเศส ซึ่งหากนำไปหักลบกับแข้งที่ขายออกไปก็ยังคงรั้งเบอร์หนึ่งที่จำนวน 897 ล้านปอนด์ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 39,468 ล้านบาท

สำหรับตลอดระเวลานับตั้งแต่เมื่อฤดูกาล 2012 – 2013แมนฯยูฯ ได้ผลาญเงินในคลังไปเป็นจำนวนมหาศาลกับการจับจ่ายแข้งทองเข้าสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดมาอย่างต่อเนื่อง โดยยกตัวอย่างดีลที่บิ๊ก ๆ ก็ตกเป็นของการคว้าตัวปอล ป๊อกบา อาร์ตตัวพ่อทีมชาติฝรั่งเศสมาจากขาใหญ่ในกัลโช่ เซเรีย อาอิตาลีอย่างยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 89.3 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3,929.2 ล้านบาท ตามมาด้วยเซ็นเตอร์แบ็กทีมชาติอังกฤษอย่างแฮร์รี่ แม็กไกวร์ที่ไปกระชากตัวมากจากเลสเตอร์ ซิตี้ที่สนนราคา 80 ล้านปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกที่ราว 3,520 ล้านบาท รวมไปถึงการดึงเอาโรเมลู ลูกากู ดางยิงหุ่นตู้เย็นเคลีอนที่ทีมชาติเบลเยี่ยมมาจากเอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3,300 ล้านบาท

ส่วนอันดับสองรองลงมานั้นมันไปตกเป็นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ช้อปปิ้งไปด้วยยอด 821 ล้านปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกที่ราว 36,124 ล้านบาท) ส่วนเจ้าบุญทุ่มในลีกเอิงฝรั่งเศสอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมงเข้าป้ายมาในอันดับที่ 3 ที่ยอดรวม 785 ล้านปอนด์ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 34,540 ล้านบาท
ทางด้านลิเวอร์พูลนับได้ว่าเป็นการใช้เงินลงทุนที่สุดชาญฉลาดเมื่อเทียบกับผลแห่งความสำเร็จ โดยหงส์แดงอยู่ในลำดับที่ 14 จากการช้อปแข้งไป 289 ล้านปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกอยู่ที่ราว 12,716 ล้านบาท
ติดตามข้อมูล เว็บข่าวฟุตบอลออนไลน์ รับประกันได้ทันทีว่าทำเงินได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน